"ขอขอบใจท่านทั้งหลายที่มาในวันนี้ มาให้พร มาให้กำลังใจในโอกาสที่จะครบวันเกิด และท่านทั้งหลายเป็นผู้แทนขององค์การและสถาบันต่าง ๆ ในทางศาสนาทั้งในทางการศึกษาทุกท่านจงเป็นมงคลยิ่งและที่ได้มาให้พรกันให้มีความสุขให้มีความเจริญนั้นต้องเข้าใจว่าจะเป็นผล เพราะว่าท่านทั้งหลายผู้ซึ่งนับว่าเป็นผู้ที่ศึกษาวิชาต่าง ๆ ในทางศาสนาก็ตามหรือวิชาในทางความรู้ทั่ว ๆ ไปย่อมเป็นพลังอย่างหนึ่งที่จะบรรลุถึงความสุขได้ในขั้นต่าง ๆ ที่จะบรรลุได้ ในสมัยปัจจุบันนี้ความสุขนั้นหายากเพราะว่าก็มองเห็นได้ว่าความวุ่นวายในโลกและถ้าเรามามองดูโดยเฉพาะเมืองไทยความวุ่นวายนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และความวุ่นวายนั้นเพิ่มขึ้นโดยน่าวิตกอย่างยิ่ง เราต้องมาพิจารณาดูและการศึกษาดูว่าความวุ่นวา...ยความเดือดร้อนต่าง ๆ นั้นขึ้นมาและมากขึ้นเพราะเหตุใด ถ้ามาดูจริง ๆ ก็ดูได้ว่าความวุ่นวายต้องเกิดขึ้นจากความไม่รู้ ความไม่รู้นั้นทั้งในด้านวิชาการ ทั้งในด้านจิตใจ ความไม่รู้นั้นเพิ่มขึ้น รู้แต่ว่ามากขึ้นก็ไม่สามารถที่จะให้ความรู้แก่คนให้มากพอ ฉะนั้นก็เกิดขึ้นมาตั้งแต่เริ่มที่จุดสำคัญก็คือปัญหาที่เรียกว่าปัญหาเยาวชนก็เพราะว่าคนนั้นเกิดขึ้นมามาก ไม่สามารถที่จะให้ความรู้ที่จะเป็นประโยชน์เพื่อความสุขได้พอจึงทำให้เกิดปัญหาขึ้นมา ปัญหายังมีปัญหาเรื่องความเดือดร้อนไม่เป็นเฉพาะเยาวชนแต่ผู้ใหญ่ขึ้นไปนั่นก็เพราะว่ายังไม่มีทางที่จะให้ความรู้ในทางจิตใจได้พอ ฉะนั้นท่านทั้งหลายทุกคนทั้งผู้ที่เป็นในด้านการศึกษา ผู้ที่เป็นครูเป็นอาจารย์ ทั้งผู้ที่เป็นนักเรียนนักศึกษาจึงมีความสำคัญในการกระจัดความวุ่นวาย ความเดือดร้อน ความไม่มีสุขของส่วนรวมของเรา เพื่อความไม่มีสุขนี้ความโหดร้ายเพิ่มขึ้นในบ้านเมืองของเราความสุขของผู้ที่ควรจะได้รับความสุขก็ต้องลดลงไป ฉะนั้นถ้าท่านทั้งหลายอยากที่จะให้ผลงานของวันนี้ที่ผ่านมาชุมนุมและมายืนรออยู่เป็นเวลานานอย่างเมื่อยล้า ก็ขอให้เป็นผลเป็นประโยชน์คือต้องตั้งจิตใจแต่ละคนตั้งใจที่จะปฏิบัติตนในทางที่ดี สมความมุ่งหมายของการเป็นครู เป็นอาจารย์ เป็นนักเรียนผู้หาความรู้ เป็นนักเรียนมีทั้งในด้านขั้นนักเรียนที่เรียนวิชาเบื้องต้น เมื่ออายุน้อยก็ต้องเรียน ถ้าได้พยายามฝึกฝนตนเพื่อวิชาการและเพื่อให้จิตใจเข้มแข็งก็จะทำให้ตัวเองดีขึ้นและสามารถที่จะขึ้นไปสู่ความเจริญ ทั้งนักเรียนขั้นสูงขึ้นไปจนกระทั่งถึงขั้นอุดมศึกษาถ้าได้ความรู้วิชาการสูงย่อมทราบกันดีมาก วิชาการขั้นสูงหรือจะเป็นประโยชน์ในชีวิตอย่างไรอย่างน้อยที่สุดถ้าสำเร็จปริญญาแล้วก็ไปเทียบเงินเดือนได้ดีกว่าผู้ที่ไม่สำเร็จปริญญา แต่ว่าจุดสำคัญของการศึกษานั้นจะไปนึกว่าเป็นปริญญาหรือความรู้หรือเงินเดือน ความรู้นี่มันเป็นส่วนหนึ่งแปลว่าการพิจารณาที่รอบคอบการสามารถที่จะใช้สมองที่เรามีอยู่มาพิจารณาเหตุการณ์มาพิจารณาว่าควรจะปฏิบัติตนอย่างไรนั้นเป็นเหตุสำคัญ ถ้าสามารถที่จะมีความรู้ในทางวิชาที่จะปฏิบัติงานใด ๆ ในหน้าที่นอกหน้าที่ เพื่อความสำเร็จนั้นถ้าไม่ประกอบด้วยการพิจารณาแล้วอาจจะเป็นหมันก็ได้หรือ ยิ่งร้ายอาจจะเป็นอันตรายต่อส่วนรวมและในที่สุดกับตัวเองก็จะแย่ไปด้วยเหมือนกัน ฉะนั้นก็ขอให้ผู้ที่อยู่ในด้านการศึกษาจงพยายามฝึกฝนหาความรู้วิชาการให้ดีเพื่อเป็นเครื่องมือในการทำมาหากิน ในอนาคตทั้งในเวลาเดียวกันให้ฝึกฝนจิตใจของตัวให้สามารถที่จะพิจารณาว่าสิ่งใดที่เหมาะสมแก่ตัวแก่ส่วนรวมอย่างไร จึงจะทำให้ความสุขที่ตนปรารถนาและที่ส่วนรวมปรารถนาเกิดขึ้นมาได้ ในด้านจิตใจนี้ทางองค์การศาสนาต่าง ๆ ศาสนาก็หมายถึงศาสนาทุกศาสนาที่มีอยู่ที่ใช้คำมาศาสนาหมายถึงสิ่งที่สนใจในด้านจิตใจของคนที่จะทำให้คนดี แล้วก็คือทำให้คนดีนี้หมายถึงว่าทำให้คนมีจิตใจที่ฉลาดที่สามารถที่จะปฏิบัติตนโดยไม่เบียดเบียนผู้อื่น โดยสร้างสรรค์ โดยที่ทำให้ผู้อื่นและตนเองได้ประสบความเจริญนี่คือศาสนา ก็ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในด้านศาสนาจงค้นคว้าหาวิธีที่จะทำให้คนบรรลุถึงความจริงความสุขได้ ศาสนาในสมัยโบราณเป็นการเมืองส่วนมากคือผู้ใดมีความคิดความเห็นเป็นอย่างไรก็อยากให้ผู้อื่นต้องมีความคิดความเห็นดังนั้น จึงเกิดภาวะเบาะแว้งกันได้ เกิดแต่งแตกแยกกัน เกิดเป็นลัทธิกัน เกิดเป็นการวางอำนาจกัน แต่ในสมัยปัจจุบันนี้ทันสมัยไปหมดแล้วศาสนาใด ๆ จะมีชื่อว่าอะไรก็ตามต้องส่งเสริมสนับสนุนเพื่อความเป็นอยู่เป็นฝึกแผ่นของสังคม ฉะนั้นที่ศาสนาต่างๆในประเทศไทยปรองดองกันดีพอสมควร มาเป็นเวลาช้านานจึงทำให้บ้านเมืองของเราอยู่เย็นเป็นสุขได้ การที่เมืองไทยอยู่เย็นเป็นสุขดังนี้ทำให้ชาวต่างประเทศทุกชาติภาษาจากทวีปต่างๆมาเห็นเมืองไทยแล้วก็ประหลาดใจ ว่าทำไมเราอยู่ได้เขาก็บางทีเขาก็หาเรื่องว่าคนไทยเนี่ยเป็นคนที่ไม่รู้เรื่อง ไม่รู้จักทะเลาะกัน บางทีก็บอกว่าคนไทยเนี่ยเป็นคนเฉื่อยชา บางคนก็บอกว่าเมืองไทยนี่ไม่ทันสมัย ไม่ตามเขา แต่ว่าอันที่จริงเมืองไทยที่อยู่มาช้านานนี้ก็เพราะว่าต่างคนต่างมีความอดทนซึ่งกันและกัน และรู้ดีว่าอย่างเช่นในด้านเรื่องของศาสนาแต่ละคนมีสิทธิที่จะคิดที่จะพิจารณาว่าหาทางของตัวเพื่อหาความสุขในทางจิตใจของตัวได้โดยเสรี แล้วต้องปฏิบัติมานานแล้ว แม่จะต่างประเทศมาบอกว่าปฏิบัตินี้มันต้นสมัยหรือไม่น่าจะเป็นได้ ต้องทะเลาะกันถึงจะดีเราอย่าเชื่อเราอยู่เย็นเป็นสุขอย่างนี้ก็เราต้องรักษาความเย็นเป็นสุขนี้ต่อไป อันนี้เคยมีเคยมีข้อสังเกตมานานแล้วว่าอย่างเช่นในวันเช่นวันนี้วันนี้มีผู้แทนของศาสนาต่าง ๆ มาอยู่ในห้องเดียวกันมาอยู่ร่วมกันได้โดยไม่เบียดเบียนกันต่างคนต่างถือว่ามีสิทธิในการคิด ก็ไม่เกิดเรื่องอะไรและเป็นทางที่ส่งเสริมความสามัคคีกำลังเป็นกำลังของสังคมเมืองไทย สรุปแล้ววันนี้มีผู้ที่เป็นผู้แทนทางการศึกษาทุกท่าน และตัวแทนของการศาสนาทุกศาสนามาอยู่ในที่นี้ มาอวยพรให้มีความสุข จึงขอบอกว่าหวังว่าจะมีความสุขได้ถ้าหากว่าทุกคนในที่นี้ซึ่งเป็นผู้แทนของคนอื่นอีกหลายพันหลายหมื่นหลายแสนคน ได้ปฏิบัติตนให้ดีจริง ๆ หมายความว่าด้วยความซื่อสัตย์จริง ๆ ต่อตัวเองว่าตัวอ้างตัวว่าเป็นผู้สนใจในทางการศึกษา ตนเป็นผู้ที่อ้างว่าเป็นคนที่สนใจในทางศาสนา ขอจงทำในทางนั้นให้ถูกต้อง แล้วก็สำนึกในความที่มีโชค โชคดีที่เดียวที่เราสามารถเรียนหนังสือสามารถที่จะหาวิชาสามารถที่จะปฏิบัติศาสนกิจอย่างเสรี เปรียบเทียบกับคนอื่นที่ไม่สามารถที่จะมีที่เรียนไม่สามารถที่จะปฏิบัติศาสนกิจของตนเป็นจำนวนไม่น้อยเหมือนกัน ก็ขอให้สำนึกในข้อนี้และพยายามที่จะปฏิบัติตนให้ดีที่สุดเพื่อให้ผู้ที่สามารถที่จะแสวงความสุขมีมากกว่าผู้ที่ไม่สามารถ ถ้าเป็นเช่นนี้แล้วและผู้ที่สามารถแสวงความสุขปฏิบัติตนให้ดีจะทำให้ผู้ที่ไม่สามารถปฏิบัติและแสวงความสุขน้อยลง และทำให้ผู้ที่เคราะห์ร้ายเหล่านั้นได้หันมาและได้โอกาสมีความสุขบ้างเหมือนกัน จะทำให้ส่วนรวมของบ้านเมืองหายวุ่นวายมีความปึกแผ่นและมีความมั่นคงได้ อันนี้เป็นวิธีที่จะทำให้สังคมเมืองไทยมีความเรียบร้อยไม่วุ่นวายไม่มีปัญหาทั้งเยาวชนทั้งปัญหาผู้ใหญ่ที่ไม่สุจริตเกิดขึ้นหรือจะลดลงไป ฉะนั้นก็ขอให้การที่ท่านมาในวันนี้เป็นประโยชน์ในการที่จะตั้งปณิธานที่จะทำหน้าที่ของตนสำหรับครูอาจารย์ต่าง ๆ ก็ให้สอนดี ๆ ให้สามารถที่จะถ่ายทอดความดีด้วยความดีของตน และผู้ที่เป็นลูกศิษย์ผู้ที่กำลังเรียนก็ขอให้ได้รับความรู้ที่ดีเป็นประโยชน์แก่ตัวและต่อไปก็เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม ขอสรุปว่าขอให้ท่านที่มาในวันนี้มาให้พรขอให้พรนั้นจงเป็นผลสำเร็จข้าพเจ้าและแก่ท่านโดยทั่ว ทั่วไปเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของส่วนรวมอันเป็นที่พักอาศัยของเรา และเราจะได้มีสังคมเมืองไทยที่ดีใครจะว่าอย่างไรก็ตามเราสร้างของเรา เราอยู่ของเรา ก็ขอจงประสบแต่ความสำเร็จความเจริญในสิ่งที่ดีที่งามทุกประการ"อ่านต่อ
Identifier (URI) |
https://lib.su.ac.th/royal-voices/resource/d7addc1b-e02f-4567-841e-ba41aa5f1dac |
Title |
พระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะผู้แทนองค์การศาสนาและสมาคมต่างๆ ทางศาสนา คณะนิสิตและนักศึกษา ในโอกาสที่เข้าเฝ้า ฯ ถวายพระพรชัยมงคล |
Subject |
|
Description |
|
Contributor |
หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์, ชุดหนังสือประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พุทธศักราช 2493 - 2548 |
Publisher |
|
Creator |
|
Date |
|
Source |
|
Language |
th-TH |
Coverage |
|
Rights |
|
Relation |
|
Type |
Sound |
Format |
audio/mpeg |
Export |