พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ชาวคณะสุนทราภรณ์ เนื่องในวาระครบรอบ “ 30 ปี สุนทราภรณ์” ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน



“การที่วงดนตรีสุนทราภรณ์ได้ดำเนินการมาครบ 30 ปีในวันนี้ ก็นับว่าเป็นเวลานาน จึง ขอให้พยายามรักษาอุดมคติที่ได้วางไว้แต่ต้นว่า วงดนตรีสุนทราภรณ์นี้จะปฏิบัติการเพื่อศิลปะแท้ๆ คือหมายความว่ายพายามที่จะจะเล่นดนตรีเพื่อให้เป็นศิลปะที่ดี ให้เป็นที่นิยมของประชาชน และเพื่อให้ประชาชน ได้มีความบันเทิง ให้ประชาชนรู้จักว่าดนตรีคืออะไร นั่นก็เป็นหน้าที่ของศิลปินที่ดี เห็นได้ว่าคณะสุนทราภรณ์ได้พยายามตลอดมา 30 ปี ที่จะส่งเสริมวิชาดนตรีให้ประชาชนได้รับทราบเป็นความรู้ ขั้นต่อไปคือข้อที่สองก็ให้การดนตรีนั้นเป็นสิ่งที่เข้าถึงจิตใจของประชาชนทั่วไป ถ้าเราปฏิบัติดีชอบ หมายถึงพยายามทั้งการเล่นดนตรี การร้อง การแต่งเพลง ตลอดจนการแสดงให้ถูกต้องตามหลักศีลธรรม ตามหลักของ...ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเป็นปึกแผ่นของบ้านเมือง เป็นไปด้วยความสามัคคี ส่วนความดีนั้นก็เป็นหน้าที่ของศิลปิน เพราะที่เราปฏิบัตินั้นไปถึงประชาชน ถ้าเราปฏิบัติดีก็เป็นความดี และทำให้ประชาชนดีไปด้วย เป็นหน้าที่ ๆ เราจะต้องทำเพื่อประเทศชาติ ประเทศชาติของเราอยู่มา ได้จนถึงสมัยนี้ก็ทราบดีว่าประชาชนอยู่ได้ด้วยความสามัคคี และความเป็นคนไทยของไทย ถ้าเราแตกแยกออกไป เราจะไม่มีสังคมและประเทศจะอยู่ความสำคัญของดนตรี ในด้านนี้ถือเป็นด้านสำคัญมากของนักดนตรีหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับดนตรี ทั้งการปฏิบัติงานดนตรี ทั้งในด้านการประพันธ์ ทั้งในด้านการแสดง ทั้งในด้านปฏิบัติ จึงนับว่าเป็นหน้าที่สำคัญยิ่งกว่าที่เราอาจจะนึกได้ว่านักดนตรีมี เพราะว่านอกจากศีลธรรมอันดีงามหรือศิลปะเป็นศิลปะโดยแท้ ยังมีเรื่องเราจะต้องชักชวนให้คนไทยด้วยกัน สำนึกถึง หน้าที่ของตน เดี๋ยวนี้สังเกตเห็นว่า เพลงมีทางดีและทางเสียได้ทั้ง 2 อย่าง ถ้าอย่างที่ดีก็ทำให้ไม่เสื่อม เสียด้านศีลธรรม และส่วนดีนั้นก็ชักจูงให้คนประกอบอาชีพในทางถูกต้องเหมาะสม ไม่ทำลายบ้านเมือง ส่วนเสียนั้นข้อหนึ่งก็คือทำให้เสื่อมในศีลธรรม ข้อสองก็คือเสื่อมในความรักชาติรักประเทศ ทั้งสองอย่างถ้าตั้งใจทำก็ทำได้ หมายความว่าเราตั้งใจที่จะส่งเสริมศีลธรรมให้ดี ทำให้ประชาชนได้ความบันเทิงโดยไม่ทำลายศีลธรรม เราทำได้ ทำให้มีเพลง หรือทำให้คนมีความรักชาติ โดยไม่ทำลายชาติ แต่ว่ามีเหมือนกันที่เพลงทำลายบ้านเมืองและทำลายความเป็นปึกแผ่นของบ้านเมืองด้วยใช้เพลง เราจึงมีหน้าที่ที่จะต่อต้านสิ่งที่ไม่ดีนั้น โดยสามารถแบ่งได้เป็นส่วนๆ ก็ได้แก่ ส่วนผู้ที่ตั้งใจดีต่อบ้านเมืองต่อศิลปะ ส่วนที่ตั้งใจร้ายต่อบ้านเมือง และส่วนที่ไม่ได้ตั้งใจร้ายต่อบ้านเมือง ทำเพียงแต่จะคิดหากิน พวกเราอย่าอยู่อย่างพวก 2 กับ 3 การทำมาหากินนั้นเราก็ทำ แต่อย่าทำลายศีลธรรมอันดีงามและอย่าทำลายชาติหรือศิลปะ การที่ขอให้ทำเช่นนั้นให้นึกว่าบ้านเมืองขาดศีลธรรม เราเดือดร้อน ถ้าเราไม่พยายามป้องกันบ้านเมือง ก็เท่ากับเราทำลายความสามัคคีด้วยเสียงเพลง เราจะไม่มีบ้านเมืองอยู่ แล้วเราก็จะไม่มีที่อยู่อาศัย เราก็จะทำมาหากินไม่ได้ อันนี้เป็นข้อสังเกตขอให้พิจารณาให้ดี วงดนตรีสุนทราภรณ์ก็เป็นครอบครัวใหญ่ ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ต้องเห็นอกเห็นใจกันเป็นปึกแผ่นให้ดี นับวันครอบครัวจะใหญ่ขึ้นทุกทีเพราะว่ามีผู้ที่จะเข้ามาสมทบและได้ปฏิบัติเพื่อชื่อเสียงของวงดนตรีสุนทราภรณ์ ซึ่งดนตรีของสุนทราภรณ์ถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิต ไม่ใช่เป็นของนายเอื้อ สุนทรสนาน แต่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของวงดนตรีสุนทราภรณ์ ขอให้วงดนตรีสุนทราภรณ์อยู่ยงต่อไป ด้วยความสามัคคี ด้วยความตั้งใจเชิดชูความดี เชิดชูศิลปะชั้นสูง มีศีลธรรม มีความรักชาติ และให้ปฏิบัติกันไปอีกนาน ให้ช่วยกันอุ้มชูสิ่งที่ดีงามที่ทำมาแล้ว 30 ปี ช่วยคิดช่วยปฏิบัติในทางที่ดี ขอให้อยู่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ขอให้ทุกคนมีอนามัยแข็งแรง มีจิตใจเข้มแข็ง มีความรู้สึกดีงาม ประสบแต่สิ่งที่ประสงค์ มีความพอใจในผลงานของตน และสามารถที่จะก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้น เพื่อให้วงดนตรีอยู่ยงสถาพรต่อไป”อ่านต่อ



จำนวนการเข้าชม :  320 ครั้ง

พระสุรเสียงที่มีเนื้อหาคล้ายกัน