คำกราบบังคมทูลของศาสตราจารย์หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร
“ขอบใจที่นักศึกษาได้ช่วยกันจัดงานการแสดงและภาพยนตร์เพื่อเก็บเงินสมทบในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในคราวนี้ นับว่าเป็นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง และทำให้คิดถึงว่า ในเมืองไทยนี้ เหล่านักศึกษาทำประโยชน์ให้มากหลาย เป็นการค้านระเบียบการของนักศึกษาทั่วโลก ที่พากันถือว่านักศึกษาจะต้องวุ่นวายต่อสู้เพื่อที่จะทำลายสิ่งที่มีอยู่การที่นักศึกษาทั่วโลก โดยเฉพาะในพวกมหาอำนาจ พยายามที่จะแสดงตนว่าจะต้องทำลายสิ่งที่มีอยู่นั้น เป็นการแสดงถึงอำนาจถึงกำลังของเยาวชนของผู้ที่กำลังอยู่ในวัยศึกษาที่แสดงออกอย่างเข้มแข็งและอย่างได้ผล ในเมืองไทยเราก็มีอิทธิพลเช่นนี้มายุแหย่ให้ผู้ที่เป็นนักศึกษาให้แสดงตนเป็นปฏิปักษ์ต่อส่วนที่เป็นที่เรียกว่า “สิ่งที่มีอยู่” หรือ “สถา...บัน” แต่ก็ไม่ใคร่จะสำเร็จ การที่ยุแหย่ไม่ใคร่จะสำเร็จนี้ ก็นับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งของเยาวชนและนักศึกษาของไทย เพราะแสดงว่าเยาวชนและนักศึกษาไทยมีหัวของตัวเอง ไม่ใช่เป็นทาสของความคิดที่เฮโลไป พวกที่อยากยุแหย่ให้นักศึกษาเฮโลไปก็ประนามพวกเราว่าเป็นคนหัวอ่อน เป็นคนที่ตามความคิดของผู้ใหญ่ เป็นคนที่เป็นทาสของประเพณี อันนี้ถ้าทุกคนได้พิจารณาดูอย่างรอบคอบแล้ว ก็จะเห็นว่าใครเป็นทาสแน่ ใครเป็นคนโง่แน่ ถ้าพิจารณาแง่หนึ่งว่า ผู้ที่อยู่ในวัยศึกษาจะต้องแสดงความคิดของตนเองอย่างถูกต้อง อย่างที่ได้ตั้งไว้สำหรับเด็กนักเรียนโรงเรียนสาธิตที่ว่า “เด็กจะทำอะไรก็ทำไป ครูดุไม่ได้ตีไม่ได้” แล้ว ก็ได้เห็นผลแล้ว จึงต้องเปลี่ยนระเบียบในโรงเรียนสาธิต ท่านอดีตรัฐมนตรี ก็ได้เห็นผลมาแล้ว จึงต้องค่อยๆ เปลี่ยนให้โรงเรียนสาธิตมีระเบียบมากขึ้น หมายความว่า การที่จะให้เด็กที่ต้องเรียนแสดงความคิดออกมาอย่างเปะปะ ทำให้เสียหายต่อเด็ก เมื่อถึงวัยศึกษาในขั้นอุดมศึกษา ก็จะได้รับการยุแหย่ว่าพวกนักศึกษาถูกศาสตราจารย์ต่างๆ กดขี่ และบังคับให้คิดในทางที่โบราณในทางที่เป็นการกดหัว ในเมืองไทย ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น ตามประเพณีของเรา ผู้ที่อยากได้ความรู้ย่อมจะต้องไปหาอาจารย์ ให้อาจารย์สอนหรือถ่ายทอดวิชาให้ เมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าผู้ที่จะเป็นลูกศิษย์เข้าไปหาอาจารย์แล้วด่าอาจารย์ อาจารย์อาจมีอุเบกขา ไม่โกรธ วางเฉยเสีย แต่ถ้าเรามาคิดอย่างเรียกว่าผู้ใหญ่ อย่างผู้ที่ฉลาด อย่างผู้ที่รู้จักจิตวิทยาของมนุษย์ ผู้ที่ต้องวางตัวเฉย และมีอุเบกขา ย่อมต้องมีอุเบกขาในทุกด้าน หมายถึงว่าระงับโกรธในการด่า คือระงับโกรธในด้านที่ถูกโจมตี แต่ก็อาจระงับความเมตตาที่จะแผ่ความรู้ให้แก่ลูกศิษย์ด้วยลงท้ายก็จะทำให้ลูกศิษย์ผู้นึกว่าตัวฉลาด นึกว่าตัวแข็ง เก่ง เข้าไปด่าอาจารย์ก็ไม่ได้ความรู้อะไรเลย จึงเห็นว่านักศึกษาในเมืองไทยมีความเฉลียวฉลาดกว่าผู้ที่ทำตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบัน เพราะว่าเวลาเรียน เราอาจไม่ชอบอาจารย์ก็ได้ เราอาจไม่ชอบของโบราณก็ได้ แต่เราก็ทำให้อาจารย์สามารถที่จะถ่ายทอดความรู้ให้เรา อันนี้สิฉลาด และจะยิ่งฉลาดขึ้นเพราะมี วิชาความรู้ประดับตัว และเมื่อมีวิชาความรู้ประดับตัวแล้ว เมื่อเรียนเรียบร้อย เมื่อมีประสบการณ์ เราจะทำอะไรต่อไปด้วยความเฉลียวฉลาดไหวพริบด้วยวิชาการ จะพลิกแผ่นดินๆ ก็ไม่แตก ต่อไปเมื่อมีหน้าที่ ก็มีหน้าที่จะปฏิบัติให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้า ขอแต่ให้ปฏิบัติเมื่อพร้อม เมื่อมีความรู้ทุกอย่างมาจากอาจารย์ แม้แต่เราเกลียดอาจารย์ เราก็ต้องพยายามหาทางหาความรู้จากอาจารย์ หลักนี้เป็นหลักที่เคยคิดมาหลายครั้งหลายคราวแล้ว จึงขอถือโอกาสมาฝากไว้ให้ไปพิจารณา ให้ไปคิดดูว่าความฉลาดของผู้ที่เป็นนักศึกษาในการเดินขบวนและทำลายสิ่งของ แบบที่มหาประเทศเขาทำ แบบประเทศที่เขาเรียกว่าเจริญแล้วเขาทำ เราจะทำตามดีหรือไม่ดี จะดูโก้หรือไม่โก้สำหรับนักศึกษาในเมืองไทย ที่พูดนี้ ไม่ใช่สำหรับมาต่อว่านักศึกษา หรือต้องการจะให้นักศึกษาต้องหงอกลัวผู้ใหญ่ที่เป็นอาจารย์ หรือกลัวผู้ใหญ่ หรือยกย่องสถาบัน แต่ว่าเพื่อที่จะเอาไปพิจารณาว่าผู้ที่ฉลาดทำอย่างไร และถ้าเห็นดีก็ขอให้ปฏิบัติ ที่ฝากความคิดไว้อย่างนี้ เพราะเห็นว่าเป็นโอกาสเหมาะ ที่ท่านทั้งหลายได้ปฏิบัติกิจกรรมที่นับว่าดี ถูกหลักเหตุผล และถูกหลักของการปกครองในบ้านเมืองของไทย ซึ่งในเวลานี้มีผู้ประสบอุทกภัยมากหลาย โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมควรที่ผู้ที่ยังสามารถที่จะมีชีวิตอย่างปรกติสุขจะช่วยผู้ที่ประสบอุทกภัยเพื่อให้ผู้ที่กำลังประสบอุทกภัยนั้นพ้นจากทุกข์ได้พอสมควร เหตุผลมีอยู่ว่า ในบ้านเมือง ถ้ามีผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก ก็ต้องช่วย พราะมิฉะนั้นก็จะเกิดอลวน เพราะว่าผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากมีอะไรก็ต้องคว้าก่อน อาจไปคว้าผิดคว้าถูกทำให้เกิดเรื่องยุ่งยากเข้า ทั้งในแง่ความเมตตา ก็เป็นการแสดงเมตตาจิตของคนที่มีความคิด ผู้ที่มีความคิดที่ดี จะต้องใช้ความคิด และเฉยเมยไม่ได้ จะต้องพูด ต้องขอชมเชยนักศึกษาทั้งหลายที่ได้ปฏิบัติถูกหลักของความเมตตา ถูกหลักของผู้ที่เจริญ และนับว่าเป็น ส่วนหนึ่งของการเป็นบัณฑิต ขอให้ทุกคนประสบแต่ความก้าวหน้าประสบผลสำเร็จทุกประการตามความต้องการ หมายถึงว่าสำหรับขณะนี้ก็คงต้องนึกถึงว่าให้การศึกษาสำเร็จสมปรารถนา ให้สำเร็จเรียบร้อย เพื่อที่จะมีความรู้และสามารถปฏิบัติงานใดๆ ก็ตามในอนาคต เพื่อประโยชน์ของตนและเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ขอให้ทุกคนจงมีกำลังทั้งกายและใจ.”อ่านต่อ
Identifier (URI) |
https://lib.su.ac.th/royal-voices/resource/24873f59-fb0c-4e5f-8b87-e288af4b7795 |
Title |
พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่คณะอาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร จังหวัดนครปฐม ที่ได้ถวายเงินเพื่อช่วยผู้ประสบปัญหาอุทกภัย ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พุทธศักราช 2513 |
Subject |
|
Description |
คำกราบบังคมทูลของศาสตราจารย์หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร |
Contributor |
หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์, ชุดหนังสือประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พุทธศักราช 2493 - 2548 |
Publisher |
|
Creator |
|
Date |
1970-10-29 |
Source |
|
Language |
th-TH |
Coverage |
|
Rights |
|
Relation |
|
Type |
Sound |
Format |
audio/mpeg |
Export |