"ขอบใจทุกคน ที่มีน้ำใจมาอวยพรวันเกิดในปีนี้ ความจริงแล้วข้าพเจ้าอยากเหลือเกินที่จะมีโอกาส มีเวลาลงไปพบปะและขอบใจแต่บุคคล แต่ละราย เพราะว่าในใจจริงแล้วรู้สึกซาบซึ้งในความดีของทุก ๆ คน ที่อุตสาห์มาทุกปีมาให้กำลังใจ แต่วันนี้รู้สึกว่าเป็นการพบปะใจอย่างแปลกที่สุด เพราะเวลาที่แนะนำขึ้นมาทีกว่าจะตามหาหัวหน้าละคณะได้ก็นั่งลงเกือบหมดแล้ว รู้สึกว่าต้องฉุดสายตาให้รวดเร็วกว่านี้ แล้วบังเอิญปีนี้ก็มีแขกสำคัญที่จะต้องรีบกับไป คือว่าเจ้าหญิงอเล็กซานดรากับพระสามีจะมา ทุกคนก็คงรู้จักจำได้แล้ว รู้สึกว่าทรงรักเมืองไทยมาก จึงได้อยากที่จะเสด็จมาเยี่ยมอีกครั้งหลังจากที่พระธุรกิจของท่านที่สิงคโปร์เสร็จแล้วรับสั่งว่ารักเมืองไทยมาก อยากมาเยี่ยม วันนี้ก็เลยต้องหนีกลั...บไปก่อน แต่ก็ประเดี๋ยวก็จะพยายามลงไปเดินให้ทั่วถึงกันหน่อย เมื่อคราวประธานาธิบดีนิกสันและภรรยามาเยี่ยมเมืองไทยก็ต้องขอขอบใจคนไทยทุกๆคนที่ให้ความต้อนรับกันอย่างพร้อมเพรียงอุ่นหนาฝาคั่งก็นับว่าเป็นทุกคนเป็นทูตที่สำคัญช่วยให้เกิดความเข้าใจดีซึ่งกันและกัน ท่านประธานาธิบดีและภรรยาพูดว่ารักเมืองไทยมากและรู้สึกว่าคนไทยเนี่ยน่ารักยิ้มแย้มแจ่มใส เมื่อคราวมิสซิสนิกสันไปเยี่ยมสภากาชาด ไปเยี่ยมที่ศูนย์บริการโลหิตทางเจ้าหน้าที่กาชาดก็ชี้แจงให้ฟังว่าเวลาที่เฉลิมพระชนมพรรษาหรือวันเกิดของข้าพเจ้านั้นจะได้รับบริจาคเลือดมากเป็นพิเศษเพราะว่าทุกคนต่างมาช่วยกันเท่ากับให้ของขวัญข้าพเจ้าด้วยการบริจาคเลือดในกาย นี่นับว่าเป็นของขวัญที่สูงที่สุด ล้ำค่าที่สุด มิสซิสนิกสันรู้สึกว่าซาบซึ้งมาก บอกว่าคนไทยนี่มีความคิดที่แปลกไม่เหมือนใครเพราะว่าก็ไม่เคยได้ยินว่าที่ไหนเขาวันเกิดประมุขและทุกคนไปบริจาคเลือดก็ไม่เคยได้ยินแปลกแต่ว่าแปลกที่ดี ความจริงข้าพเจ้าก็อยากจะกล่าวว่าคนไทยเราเนี่ยเพราะว่าเป็นชนชาติที่เจริญมานานแล้วหลายร้อยปีแล้วย่อมรู้จักคิดรู้จักทำอะไรเองให้บังเกิดผลดีกับส่วนรวม เช่นเวลาที่วันเฉลิมพระชนมพรรษาหรือวันเกิดของข้าพเจ้าก็มักจะได้รับคำบอกเล่ามาจากนิสิตนักศึกษา หรือมิฉะนั้นก็ประชาชนทั่ว ๆ ไปนี้เขียนจดหมายบอกมาว่าเขาได้ออกไปช่วยพัฒนาหรือไปช่วยชาวบ้านในหมู่บ้านที่ห่างไกลขอแบ่งกุศลให้นี่ก็เป็นความคิดที่แปลกประหลาดที่ไม่มีประเทศไหนแล้ว บางคนก็ออกไปดายหญ้าตามที่สาธารณะตามวัดตามที่ไหนที่เขาคิดว่าจะเป็นเป็นประโยชน์บางสมาคมก็ออกไปแจกของใช้กับเด็กที่ขาดแคลน กับหมู่บ้านที่ยากจนเพื่อเป็นที่ระลึกสำหรับในวันเกิดของเราทั้งสอง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการแผ่ความเมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์เป็นการทำความดีที่ยอดเยี่ยมคน ไทยเราฉลาดจึงรู้ว่าการช่วยกันคนละไม้คนละมือทำความดี ทำประโยชน์ให้แก่หมู่คณะและชาติบ้านเมืองเป็นสิ่งที่ควรกระทำอย่างยิ่งในปัจจุบันนี้ เพราะมนุษย์เราก็จำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ช่วยกันทำงานแบ่งเบาภาระคนมีก็ช่วยแบ่งเบาให้คนจน รู้สึกว่าเป็นเพื่อนร่วมชาติ ถ้าเรามีอยู่คนเดียวคนอื่นขาดแคลนเราก็นิ่งดูดายไม่ได้ ก็เป็นการแบ่งกันกินกันใช้เพื่อให้เกิดความผาสุกของส่วนรวมสมดังพระพุทธดำรัสของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ตรัสไว้ว่า ความเมตตาเป็นเครื่องค้ำจุนของโลก เพราะฉะนั้นคุณความดีทั้งหลาย ความเมตตาทั้งหลาย ที่ท่านแบ่งปันให้ข้าพเจ้าในวันนี้ ขอความดีนั้นจงสนองตอบแทนท่านทั้งหลายทุกประการ ขอบใจ "อ่านต่อ
Identifier (URI) |
https://lib.su.ac.th/royal-voices/resource/1cdb9ad7-b733-4765-93ed-98d7fe50ea86 |
Title |
พระราชดำรัส ของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พุทธศักราช 2512 |
Subject |
|
Description |
|
Contributor |
หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ |
Publisher |
|
Creator |
|
Date |
1969-08-12 |
Source |
|
Language |
th-TH |
Coverage |
|
Rights |
|
Relation |
|
Type |
Sound |
Format |
audio/mpeg |
Export |