"วันนี้จะขอพูดกับผู้ที่สำเร็จการศึกษา และผู้ที่มาประชุม ณ ที่นี้อาจจะนานสักหน่อย เพราะว่าหลังจากที่ได้ตามเสด็จพระราชดำเนินไปต่างประเทศ 3 ประเทศเป็นเวลา 1 เดือนเต็มได้ข้อคิดที่น่าทึ่งน่าสนใจมากมาย แต่ก่อนอื่นก็ต้องขอบอกว่าข้าพเจ้าพอใจมากเมื่อได้ทราบถึงความเจริญก้าวหน้าทางด้านวิชาการของโรงเรียนพยาบาลผดุงครรภ์และอนามัยคณะแพทย์ศาสตร์และศิริราชพยาบาลตามรายงานของอธิการบดีมหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ เช่นมีการเพิ่มหลักสูตรการศึกษาอนุปริญญาการศึกษาวิชาพยาบาลเป็นต้น ซึ่งจะนำความก้าวหน้ามาสู่อาชีพพยาบาลต่อไป ทุกคนทราบดีแล้วเพื่อความเจริญทางด้านวัตถุทำให้โลกของเรามีความก้าวหน้าและสะดวกสบายขึ้นอย่างยิ่ง ถ้าเทียบกับสมัยก่อนแล้ว จึงต้องนับว่าความเจริญทางวัตถุนี้...เป็นสิ่งของจำเป็นและสำคัญมากสำหรับชีวิต แต่ชีวิตของเรายังต้องการความเจริญอย่างอื่นด้วยคือความเจริญทางด้านจิตใจซึ่งสำคัญและจำเป็นไม่น้อยกว่าความเจริญทางวัตถุเลยเมื่อข้าพเจ้าตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปต่างประเทศเป็นทางการคราวที่แล้ว ได้มีโอกาสพบปะสนทนากับชาวต่างประเทศหลายอาชีพด้วยกันอาจารย์ก็มีนักธุรกิจก็มีข้าพเจ้าเกิดความยินดีมาก พวกเขาเหล่านั้นต่างมีความเห็นสอดคล้องต้องกันว่าน่าเสียดายเหลือเกินที่ทุกวันนี้ความเจริญทางวัตถุก้าวล้ำหน้าเกินกว่าความเจริญทางด้านจิตใจไปไกลนัก เป็นเหตุทำให้ทุกคนทุกวันนี้มีความเร่าร้อนกระวนกระวายใจเกิดความเดือดร้อนหรือต่ำไร้สายทั่วไปทุกมุมโลก มนุษย์ส่วนมากสมัยนี้บูชาหลงไหลความเจริญในทางวัตถุมากเกินไป ไม่สนใจในสิ่งที่เป็นความสุขทางนามธรรม มัวติดอยู่กับวัตถุซึ่งคนส่วนมากเห็นว่าบันดาลความมั่งมีความสะดวกสบายจึงมุ่งแต่จะแสวงหาและสะสมวัตถุเพื่อประกอบและเพิ่มพูนความผาสุกของแต่ละคน พากันทอดทิ้งหลงลืมความเจริญทางด้านจิตใจพากันหลงลืมที่จะดูรอบข้าง ดูเพื่อนมนุษย์ผู้อื่นที่กำลังทุกข์ร้อนและต้องการความช่วยเหลือ การอนุเคราะห์ผู้ตกทุกข์ได้ยากนั้นหลายคนคิดว่าเป็นเรื่องมาภายหลังเมื่อตอนร่ำรวยหรือใช่หรือสอยแล้วจึงค่อยคิดกัน แต่ความจริงถ้าตั้งใจจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เพื่อนร่วมชาติแล้วมีโอกาสอยู่เสมอ ดังเมื่อเร็ว ๆ นี้มีคณะผู้แทนกรรมกรสามล้อเครื่องที่ร่วมใจบริจาคโลหิตและทุนซื้ออุปกรณ์ให้แก่ศูนย์บริการโลหิตของสภากาชาดไทย เขาทำได้โดยสะดวกและพร้อมเพรียงดีมาก ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะกรรมกรสามล้อเครื่องเหล่านั้นมีความเจริญ แต่ความเจริญสว่างในจิตใจไม่ใช่ความเจริญในทางวัตถุ ทำให้เขาคิดถึงผู้อื่นและอยากแบ่งปันความสุขให้แก่ผู้อื่นบ้าง ทุกคนก็ได้เห็นแล้วว่าข้าพเจ้ามีลูกชายซึ่งบัดนี้สูงใหญ่โต และเป็นผู้ที่กำลังจะต้องศึกษาเล่าเรียนเพื่อจะได้มารับภาระที่ยิ่งใหญ่ต่อไปข้าพเจ้ายกตัวอย่างนี้สอนลูกชายเขาเห็นว่า กรรมกรสามล้อเครื่องนั้นแม้ที่จะเป็นผู้ที่ขาดความมั่งคั่งทางด้านวัตถุ แต่ร่ำรวยยิ่งนักในด้านคุณธรรมมีความรักเหลือล้นพ้นให้เพื่อนร่วมชาติ ต้องแล้วก็เป็นผู้ที่ทางพุทธศาสนายกย่องแล้วว่าเจริญแท้ อยากให้ทุกคนได้เห็นว่าความเจริญทางวัตถุนั้นจำเป็นจริง ๆ ที่จะต้องควบคู่ไปกับความเจริญทางจิตใจจึงจะทำให้ชีวิตมนุษย์สมบูรณ์และมีค่ามากขึ้น ขอเล่าอีกเรื่องหนึ่งที่ได้พบมาเองในคราวที่ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปต่างประเทศทุกแห่งที่เสด็จต้องมีนักเรียนไทยมาเฝ้าพร้อมแน่นขนัด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่มีพระกระแสและสั่งว่าแสดงให้เห็นว่าทุกคนพร้อมเพรียงกัน และถือตนว่าเป็นคนไทยจึงมาเฝ้าพร้อมกันด้วยความภาคภูมิใจ ทำให้ชาวต่างประเทศที่ได้เห็นเกิดความศรัทธาว่าคนไทยมีความพร้อมเพรียงกันดีมาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชดำรัสแก่นักเรียนไทยว่าการที่ได้มีโอกาสมาศึกษาในต่างประเทศ นับว่าเป็นโชคดียิ่ง แต่เมื่อศึกษาสำเร็จแล้วขอให้นึกถึงประเทศชาติบ้างแม้สักนิดหนึ่งประเทศไทยกำลังต้องการความช่วยเหลือจากคนไทยทุกคนขอให้กลับไปทำงานให้แก่ชาติบ้านเมือง มีนักเรียนผู้หญิงคนหนึ่งทุนส่วนตัวเข้ามาเฝ้ากราบแทบพระบาทกราบบังคมทูลว่าเดิมตั้งใจว่าเวลาศึกษาเสร็จแล้ว จะตั้งรกรากอยู่ในต่างประเทศแต่เมื่ออยู่ตามพระราชดำรัสแล้วก็เปลี่ยนใจ เขามีความเห็นว่าควรกลับไปทำงานให้ แก่ชาติและเสียสละเวลาในชีวิตของคนให้แก่บ้านเมืองสักนิดหน่อยบ้าง รู้สึกว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงยินดีมากรับสั่งกับคำว่าเรามาครั้งนี้เหนื่อยเหลือเกิน นอนก็น้อยพบคนเป็นจำนวนมากบางครั้งแทบทรงตัวไม่อยู่ แต่เมื่อได้ฟังคำของนักเรียนไทยผู้นั้นกราบบังคมทูลก็ทรงมีพระทัยปิติโสมมนัสเป็นอย่างยิ่ง รับสั่งว่าเสมือนหนึ่งได้ยาหอมเม็ดใหญ่เคยว่าแสดงว่าพระราชดำรัสนั้นได้ผลสมพระราชฤทัยทุกประการข้าพเจ้าเองประสบโอกาสประสบเหตุการณ์ที่ชวนคิดเหมือนกัน ผู้หญิงไทยคนหนึ่งตั้งรกรากอยู่ต่างประเทศ ข้าพเจ้าถามเพราะว่าอยู่สบายดีหรือเขาร้องไห้โฮออกมาตอบว่าสบายดีหมายความถึงสบายกายทุกอย่างแต่ใจว้าเหว่เหลือเกิน เพราะขาดอะไรก็ไม่ทราบ ข้าพเจ้าเข้าใจว่าสิ่งนั้นคือบ้านเกิดเมืองนอนนั่นเอง คนไทยทุกคนภูมิใจที่เรามีประเทศมาตุภูมิที่เป็นอิสระเราไปไหนเราจะเป็นตัวของเราเองเพราะเรามีชาติบ้านเมืองที่เป็นของเราถึงแม้ว่าจะไม่เจริญทางด้านวัตถุเทียบเท่ากับประเทศใหญ่ ๆ บางประเทศ แต่เราก็รัก ได้ร่วมการดำรงรักษาไว้ได้มาถึงกว่า 700 ปี นักเรียนพยาบาลที่จบในวันนี้ทุกคนมีโอกาสดีเท่าหรืออาจจะดีกว่าสตรีที่มีอาชีพอื่น ๆ ในทางที่จะสนองความต้องการของชาติและของโลก แต่ละคนได้ศึกษาวิชาการที่เป็นประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์และต่อชาติการศึกษาที่ท่านได้รับจากสถาบันนี้ อาจเป็นทางนำไปสู่โอกาสที่จะศึกษาหรือทำงานต่อในต่างประเทศ อย่างไรก็ตามอย่าลืมว่าความเจริญทางด้านการงานจะต้องควบคู่กันไปกับความเจริญทางจิตใจเสมอไป ชาติบ้านเมืองยังต้องการทั้งแรงงานและความรู้ของท่านอยู่เสมอบุคคลใดก็ตามต่อให้ร่ำรวยมีความรู้สูงและถึงแม้จะหางานได้ง่ายในต่างประเทศ แต่ถ้าไม่มีชาติบ้านเมืองเหลืออยู่ไม่มีเชื้อชาติเหลืออยู่ก็จะมองดูหน้าคนอื่นชาติอื่นได้ยากนัก ในที่สุดนี้ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดีกับผู้ที่จบหลักสูตรและได้รับอนุปริญญาบัตร ประกาศนียบัตรในวันนี้ทุกคน ขอให้ประสบความสุขความเจริญทุกด้าน"อ่านต่อ
Identifier (URI) |
https://lib.su.ac.th/royal-voices/resource/d454f25c-01d1-4c01-83af-470aa5cd353b |
Title |
พระราโชวาท ของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ในพิธีพระราชทานอนุปริญญาบัตรและประกาศนียบัตรนักเรียนพยาบาลศิริราช พุทธศักราช 2510 |
Subject |
|
Description |
|
Contributor |
หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ |
Publisher |
|
Creator |
|
Date |
1967-07-31 |
Source |
|
Language |
th-TH |
Coverage |
|
Rights |
|
Relation |
|
Type |
Sound |
Format |
audio/mpeg |
Export |